ลาออกก็เหมือนการดำน้ำ

แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนได้ทำงานที่ฝันดังนั้น เมื่อเรางมองมันเป็นเพียงกิจกรรมที่ใช้หาเลี้ยงชีพ เพื่อจะได้เอาผลตอบแทนนั้นไปใช้ชีวิต มันกลับเป็นงานที่ดูไร้ค่า จืดชืด และน่าเบื่อนานวันเข้าความรู้สึกนั้นจะกัดกินจนพาลไปาจทำให้คุณไม่ชอบตัวเองด้วยซ้ำ วันนี้เราจึงขอแบ่งปันประสบการณ์การลาออก เพื่อเป็นแนวทางให้ทุกคนที่กำลังมองหาหนทางใหม่ให้ตัวเอง เพื่อพบตัวตนที่ดีกว่า และรักตัวเองมากขึ้นกว่าที่เคย ไม่แน่คุณอาจชอบมันมากๆ แบบเราก็ได้


แต่แน่นอนนอนว่าการตัดสินใจลาออกคือการกระโดดลงน้ำที่คุณไม่รู้ว่ามันลึกเท่าไร พร้อมหรือยังหายใจลึกแล้วไปกัน

  1. กระโดดลงน้ำต้องรู้ว่าลงไปตรงไหน

    มันเหมือนกันกับตายแล้วไปไหน แน่นอนว่าเราก็ไม่เคยตายด้วยสิ แต่ออกแล้วไปไหน อันนี้ตอบได้ คำถามที่หลายคนที่ไม่ค่อยได้ลาออกอาจจะงงๆ (ใครมันจะออกบ่อยๆกันหละ) ในเช้าที่ตื่นมาไม่ต้องรีบอาบน้ำแล้วไปทำงาน มันจะงงหน่วงๆแบบว่า “ออกแล้วไปไหนวะ”กรณีแรกคือ ออกแล้วไปชิลล์แปลว่าคุณต้องมีเงินสำรองเยอะมากในระดับครึ่งปีไม่มีงานก็ได้
    กรณีที่สอง ออกแล้วไปเกาะ แปลว่าไปเกาะใครสักคนอันนี้ไม่แนะนำให้ไปเป็นภาระคนอื่น แม้กระทั่งที่บ้านก็ตาม เพราะนานไปคุณจะค่อยๆ สูญเสียความมั่นใจ และความภูมิใจในตัวเอง
    กรณีที่สามคือ ออกแล้วไปเกิดใหม่ แปลว่าคุณมีที่ที่ดีกว่าอยู่แล้วพร้อมจะไปเกิดใหม่ในที่ที่ดีกว่า เหมือนได้ชุปตัวเองยังไงอย่างนั้นเลย ซึ่งกลุ่มนี้จะไม่มีปัญหาอะไรเลย เพราะมีงานรองรับอยู่แล้ว

  2. อากาศสำรองในถังเหลือเท่าไร

    แน่นอนว่าหลังจากคุณกระโดดลงในทะเลแล้ว คุณรู้ทิศทางที่จะไปแล้ว สิ่งสำคัญคือคุณดำน้ำเก่งขนาดไหน ถ้าไม่เก่งบอกเลยว่าคุณจะตายในไม่ช้า อ้าวชิปหายละอ่านมาถึงตอนนี้ ไหงลาออกมายากเย็นจังวะ (อย่าเพิ่งบ่น) เรามาหาทางรอดกัน2.1 ถังออกซิเจนทำให้เราไม่ตาย แน่นอนว่าจะดำน้ำลึกต้องมีถังออกซิเจนที่ดี และนั่นหมายถึงสภาพการเงินที่คล่องตัวมากๆ อากาศในถังเปรียบเสมือนการเงินของคุณเอง คุณมีมากพอที่จะอยู่ได้กี่เดือน มากพอที่จะดูแลตัวเองแบบไม่ขัดสนจนกว่าจะหางานใหม่ได้หรือไม่

    2.2 Free dive แน่นอนว่าการ Free dive ไม่ต้องใช้ถังออกซิเจนให้วุ่นวาย แต่อาจตายเพราะน้ำหนีบได้ และการ Free dive ของแต่ละคนอยู่ที่ระดับน้ำไม่เท่ากันด้วย กลุ่มนี้จัดว่าต้องเป็นคนที่เก่งพอตัวถึงเก่งมาก แต่อาจเงินน้อย คือพวกที่เงินเก็บไม่ค่อยมีหรอกแต่กูอยากออกแล้ว แต่ข้อดีของกลุ่มนี้คืออกได้เลยไม่ต้องกังวลเงินสำรอง (แต่ใช่ว่าทุกคนจะไปรอด)

    เราเองจัดอยู่ในกลุ่มนี้คือ พอออกมาแล้วเราไม่กลับเข้าไปสู่ระบบการทำงานออฟฟิตอีกแล้ว อิสระที่จะทำงานที่ไหนเมื่อไรก็ได้ (แต่จริงๆเราทำงานหนักมาก) แต่แลกมาด้วยเวลาที่เราได้กลับมาเต็มที่ และวินัยที่ต้องสูงกว่าเดิมมาก เพราะการทำงานของเราแลกมาด้วยความน่าเชื่อถือ การแก้ปัญหาที่ทันท่วงที จะบอกว่าห้าทุ่มแล้วไม่ใช่เวลางานไม่ได้ แต่การวางแผนที่ดีช่วยได้เยอะมาก แต่กลุ่มนี้ถ้าไม่มีฐานกลุ่มลูกค้าที่เป็นเหมือนถังออกซิเจนทำให้เรา เราอาจตายได้ง่ายๆ

  3. ขุมทรัพย์ใต้ทะเล

    หลังจากดำน้ำมาระยะหนึ่งเราจะถามตัวเองว่ากูโดดลงน้ำมาทำไมเนี้ย นอนบนเรือชิลล์ก็ดีอยู่แล้ว แต่ใต้ทะเลอันลึกลับมีขุมทองซ่อนอยู่ (俺の財宝か?ほしけりゃくれてやる。探せ!この世のすべてをそこに置いてきた!  – สมบัติของฉันเหรอ? ถ้าอยากได้ก็เอาไปเลย หาให้เจอสิ! ฉันทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ไว้ที่นั่น!) สิ่งที่คุณจะได้คือรายได้สามถึง สิบเท่าที่คุณเคยได้รับ แน่นอนว่าคุณต้องมีศักยภาพในการทำงานที่สูงมาก เช่นงานหนึ่งอาทิตย์คุณทำเสร็จในหนึ่งวัน แปลว่าหนึ่งอาทิตย์คุณทำห้าวันพอแล้ว และพักผน่อน อ่านหนังสือเติมพลังสมองสองวันหรือกี่วันก็ยังได้

    แล้วจะทำอย่างไรหละถึงจะใช้ชีวิตแบบนี้ได้ คำตอบคือเราเองก็ต้องสร้างงานให้เป็นที่จดจำ และรู้ว่างานที่เราทำมีขอบข่ายแค่ไหน อย่างผมเองเป็นคนทำ Content Marketing ที่ดูแลเรื่อง Branding / Marketing / Social media ของร้านที่ครอบคลุมถึงการวางแผนและการแก้ปัญหาของธุรกิจ คือจ้างเราคนเดียวคุณไม่ต้องจ้างอีกห้าคน มันคุ้มค่ากว่าการจ้างพนักงานประจำเยอะๆ อยู่แล้วและหลังจากนั้นเจ้าของกิจการก็เกิดการบอกต่อ เราเกิดจากตรงนั้น และเราก็บอกไม่ได้ว่า

    “เฮ้ยคุณทำแบบเราสิ มันดูงี่เง่ามากสิ่งที่คุณต้องทำคือ แสวงหาหนทางตัวเองให้เจอ”

  4. ชีวิตที่ได้มาก

    แน่นอนคุณได้เวลากลับมา แต่สิ่งที่ต้องแลกคือ ความไม่แน่นอนของการสร้างงาน และนั่ดูเหมือนจะส่งผลโดยตรงทำให้หลายคนไม่กล้าที่จะลาออก ยกเว้นเสียแต่ว่าคุณจะมีงานใหม่สำรองอยู่แล้ว การสร้างงานที่ชัดเจนต่อเนื่องจึงเป็นสิ่งจำเป็น และสำคัญมาก การทำงานให้หลายๆที่จึงเป็นการกระจายความเสี่ยงที่ดีอีกทางหนึ่ง

  5. ความไม่แน่นอน
    นั่นหละมาถึงตรงนี้คุณคงพอเห็นโอกาสและความเสียงของการดำน้ำแล้ว แต่หนึ่งในนั้นคือทักษะเฉพาะตัวที่คุณต้องเอาตัวรอด หากชีวิตบนเรือมันไม่ตอบโจทย์คุณอาจแค่หาเรือลำใหม่ แต่ถ้ามันไม่ตอบโจทย์ก่อนคุณคิดกระโดดลงน้ำไปโลกอีกใบที่คุณไม่รู้จัก

    เราอยากให้คุณสำรวจความเสี่ยงก่อน มองภาพรวมของชีวิตให้ออกว่าคุณต้องการอะไร อยากใช้ชีวิตแบบไหน และคุณจะค้นพบหนทางที่ต้องเดินไป

    ขอให้พบเส้นทางของคุณเอง