Cocktail from Phuket Island in MEKHONG: THE SPIRIT 2020

กลับมาอีกครั้งกับงาน MEKHONG: THE SPIRIT 2020 ที่จะให้วงการบาร์เทนเดอร์คึกคักอีกครั้งด้วยโจทย์ ความเป็นไทยที่ถูกลืม” จากผู้เข้ารอบคัดเลือกรอบแรกทั้ง 20 ท่าน วันนี้เราอยากแนะนำให้คุณรู้จักกับเครื่องดื่ม 4 ตัวนี้จากเกาะภูเก็ต

” ซ่อนกลิ่น ” ได้แรงบรรดาลใจมาจาก “น้ำอบ น้ำปรุงไทย” ที่นิยมใช้กันในกรุงรัตนโกสินทร์ ค็อกเทลตัวนี้ตัวกลางที่สื่อถึง น้ำอบน้ำปรุงของไทยที่ถูกลืมไปแล้ว หวนกลับมาให้คิดถึงอีกครั้ง ตั้งใจเสิร์ฟเป็นสีทองใส ประดุจดั่งแม่น้ำโขงที่ใสไหลเย็นในช่วงหน้าแล้ง

ซ่อนกลิ่น –  The Lounge Bar – ภัทรศยา ศรีษะแก้ว


จากแรงบัลดาลใจของบาร์เทนเดอร์ เขาเล่าเราว่า “ค็อกเทลตัวนี้ผมได้แรงบันดาลใจมากจาก ขนมไทยโบราณ นามว่า “บุหลันดั้นเมฆ” ซึ่งผมเชื่อว่าในคนไทยในสมัยนี้แทบจะไม่รู้จัก และหาทานได้ยาก บุหลันดั้นเมฆเกิดขึ้นสมัยรัชกาลที่2 ด้วยความละเมียดละไม ตั้งแต่การคัดสรรค์วัตถุดิบ จนกระทั้งกระบวนการทำจึงทำให้ขนมไทยโบราณมีเอกลักษณ์และดูน่าสนใจ

โดยผมนำเอาวัถุดิบท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้เพื่อสร้างมูลค่าให้กับวัตถุดิบท้องถิ่น อาทิเช่น สับปะรดภูเก็ต,มะพร้าว,ยอดหมุย,อันชัน มาผสมผานกับสุราไทยนามว่า”แม่โขง” เพื่อสังสรรค์ ค็อกเทลที่บ่งบอกถึงความเป็นไทย สิ่งที่ผมพูดมามันจะเกิดขึ้นไม่ได้ท้าไม่ได้ “แม่โขง”

ผมต้องขอบคุณ “แม่โขง” ที่จัดการเเข่งขันครั้งนี้ขึ้นมาเพื่อยกระดับบาร์เทนเดอร์ ปลุกภูมิปัญญาไทย ให้ก้องไกลแก้วกังวาน ผ่านตำนานสุราไทย สัมผัสประสบการณ์อันยิ่งใหญ่ สู่ความภาคภูมิใจ จากนี้ไปจนนิรันดร์ บุหลันดั้นเมฆ”

บุหลันดั้นเมฆ

บุหลันดั้นเมฆ – Mai Bar – วีระพงษ์ ใจรัก


จากเรื่องเล่าในสมัยก่อน มาเป็นเครื่องดื่มที่บาร์เทนเดอร์ บอกเล่ากับเรา “จากคำสมัยก่อนที่เราได้ยินกันสนั่นหู “ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว” มันคือการบ่งบอกถึง ความอุดมสมบูรณ์ของบ้านเรา หรือ ประเทศไทย สืบเนื่องมาจนวัฒนธรรม ของภาคใต้ที่มีมาช้านาน คือ ข้าวเหนียวกะทิปลาเค็ม เป็นอาหารคาวหวาน ที่น้อยคนนักถึงจะได้รับประทาน

ตลอดไปจนถึงพ่อของแผ่นดินหรือ ในหลวง รัชกาลที่9 ท่านทรงสอน ให้เรารู้จักคำว่า “พอเพียง” หากนำคำสอนของพ่อ มาประยุกค์ใช้กับ bar industry มันคือการใช้ทุกอย่างอย่างคุ้มค่าที่สุด เครื่องดื่มตัวนี้ รวมทุกอย่างเข้ามาไว้ด้วยกัน ดื่มแบบพอดี มีความสุขกับการพอเพียง

ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว – Mizulim – Guntarit Ruamthongrat


ชาวไร่ชาวนา เป็นผู้ประกอบอาชีพเกษตรกร เลี้ยงสัตว์ และเพาะปลูกวัตถุดิบต่างๆ ซึ่งเราถูกปลูกฝั่งกันมาตั้งแต่สมัยก่อนว่า ชาวไร่ชาวนาคือกระดูกสันหลังของชาติ และยิ่งเราเติบโตขึ้นมา มันก็ยิ่งตอกย้ำในความหมายนั้นอย่างชัดเจน

ค็อกเทลตัวนี้ ผมขอนิยามว่า “ชาวนา” เพราะด้วยเหตุผลที่ว่า ผมเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า ผมอยากยกย่อง และนำคำๆนี้ไปให้คนต่างชาติหรือรวมถึงคนในประเทศได้รู้จักและเน้นย้ำความสำคัญของอาชีพนี้ ตั้งแต่สมัยเด็กๆ เวลาก่อนทานข้าว เราจะมีการพนมมือเพื่อขอบคุณชาวไร่ชาวนา คนที่ให้อาหารต่างๆ เราทาน(ยังจำกันได้อยู่ไหม)แต่ด้วยยุคสมัย และการเปลี่ยนแปลงของโลกที่เปลี่ยนไป ทำให้เวลาทานข้าวเราไม่ได้คำนึงถึงว่า เมล็ดข้าว แต่ละเมล็ดมาจากที่ใดและจากใคร…

ทุกวันนี้ข้าวยังคงเป็นวัตถุดิบส่งออกอันดับต้นๆของไทย แต่วงเวียนห่วงโซ่การทำธุรกิจ แน่นอนว่าทอดที่ 1 มักจะเป็นถูกเอารัดเอาเปรียบจากพ่อค้าคนกลาง และทอดที่ 1 ผู้โชคร้ายของเรานั่นก็คือ “ชาวนา” พวกเขามักจะถูกเอารัดเอาเปรียบ เสมอ แต่เหรียญมักมีสองด้านเสมอ เพราะทางหลายๆภาคส่วนเองก็ยื่นมือเข้ามาช่วยในเรื่องของราคาข้าว ลดราคาวัตถุดิบที่ช่วยในการเพาะปลูก เพื่อลดหนี้สิ้นต่างๆเพื่อช่วยชุมชนเกษตรกรให้มีชีวิตการเป็นอยู่ให้ดีขึ้น

และผมเองก็คือลูกชาวนาเช่นกัน ผมทราบกระบวนการทุกขั้นตอนว่า กว่าจะมาเป็นข้าวเมล็ดสีขาวสวยๆสักเม็ด มันยากลำบากแค่ไหน…แต่โชคดีนะครับ ในศตวรรษที่ 21 นี้ เรามีเครื่องมืออำนวยความสะดวกมากมายที่อำนวยความสะดวก ทำให้ผมนึกย้อนมองกลับไปสมัยบรรพบุรุษของเรา ที่ต้องใช้วัว ควาย ในการทำนา ทนหลังขดหลังแข็ง เพื่อจะนำรายได้มาหล่อเลี้ยงครอบครัว และส่งต่อข้าวมาให้พวกเราได้ทานกันมาจนถึงทุกวันนี้

“ หลังสู้ฟ้า หน้าสู้ดิน “คำๆนี้ทำให้เราได้เห็นภาพของการเสียสละ และตระหนักถึงความสำคัญของอาชีพ “ชาวนา” ได้อย่างชัดเจน ผมจึงอยากให้ค็อกเทลตัวนี้เป็นตัวที่ทำให้ผู้ดื่มได้สัมผัสความหอมของข้าวที่เปรียบเสมือนวัตถุดิบและความเข้มขมซึ่งเป็นสิ่งสะท้อนถึงความอดทนของ “ชาวนา” ซึ่งถ่ายทอดผ่านค็อกเทลตัวนี้ได้เป็นอย่างดี

ชาวนา -Clould 19 Phuket – กมลพล ไชยบูล

แล้วมาลุ้นกันว่าใครจะเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่ดีที่สุดในปีนี้ MEKHONG: THE SPIRIT 2020